‘พระพุทธเมตตา’ พระพุทธรูปอันงดงามยิ่ง เป็นพระประธานประดิษฐานอยู่ภายในพระมหาเจดีย์พุทธคยา ซึ่งอยู่ด้านหน้าพุทธบัลลังก์ที่ประทับใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตำแหน่งที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญ ที่ถือเป็นหนึ่งในหัวใจแห่งพระพุทธคุณ ที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายทั่วโลก เคารพนับถือและกราบไหว้บูชากันอย่างมากมายไม่ขาดสาย เพื่อระลึกถึงพระเมตตาคุณของพระพุทธองค์ที่ทรงสั่งสอน โปรดเวไนยสัตว์ทั้งปวงให้พ้นทุกข์ และด้วยพระพักตร์อันเปี่ยมไปด้วยความเมตตาของพระพุทธรูปองค์สำคัญนี้ จึงมีสมัญญานามว่า ‘พระพุทธเมตตา’
คนไทยกล่าวถึง พระพุทธเมตตา ว่าเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หรือ ปางชนะมาร ส่วนที่อินเดียเรียกว่า ปางภูมิสัมผัส หรือ ปางภูมิผัสสะ ซึ่งหมายถึงว่า พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้แผ่นดินเป็นพยานแห่งการทำความดีในอดีต เนื่องด้วยในระหว่างที่จะตรัสรู้นั้น พระยามารพร้อมเสนามารทั้งหลายได้มาผจญ ไล่พระพุทธองค์ให้ลุกหนี ไปเสียจากพุทธบัลลังก์ที่ประทับ ตราบนั้น ทรงชี้ให้พระแม่ธรณีมาเป็นพยาน ในการทำความดีที่พระองค์ ได้สะสมต่อเนื่องมาโดยตลอดตั้งแต่ในอดีตชาติทั้งหลาย ในครานั้น พระแม่ธรณีจึงได้บีบน้ำในมวยผม ที่พระพุทธองค์ได้ทรงฝากไว้ ตอนกรวดน้ำทำบุญทุกๆ ครั้ง ก่อให้เกิดน้ำท่วมท้นมากมายมหาศาล จนเหล่าพระยามารและบริวารทั้งหลายต้องพ่ายแพ้ต่อพุทธบารมีไปในที่สุด และพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสรู้ในเวลาต่อมา ณ พุทธบัลลังก์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั่นเอง
‘พระพุทธเมตตา’ มีอายุมากกว่า 1400 ปี มีตำนานที่น่าสนใจ กล่าวโดยย่อคือ ครั้งหนึ่ง พระเจ้าสาสังการ กษัตริย์ฮินดูจากเบงกอล ผู้ซึ่งต้องการทำลายล้างพระพุทธศาสนา ได้ยกกองทัพมา ณ บริเวณ ต้นพระศรีมหาโพธิ์และสั่งกองทหารให้ทำลายต้นพระศรีมหาโพธิ์ พร้อมขุดรากขึ้นมาเผา เมื่อเข้าไปในพระมหาเจดีย์ เห็นพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ที่คิดจะทำลายด้วยตนเอง แต่ไม่สามารถทำได้ลง เนื่องเพราะพระพักตร์ อันเปี่ยมไปด้วยพระเมตตานั้น จึงสั่งให้นายทหารไปทำลายทิ้ง นายทหารผู้ซึ่งเป็นชาวพุทธนั้น ก็ไม่กล้าทำลาย จึงออกอุบายด้วยการสร้างกำแพงขึ้นบัง เพื่อซ่อนองค์พระพุทธเมตตาไว้ อีกทั้งยังจุดประทีปบูชาไว้ภายในด้วย แล้วนำรูปบูชาของชาวฮินดูมาตั้งไว้ด้านหน้าแทน ในตำนานกล่าวไว้ว่า พระเจ้าสาสังการในเวลาต่อมาได้ล้มป่วยลง พระวรกายเน่าเปื่อยเนื้อหลุดเป็นชิ้นๆ ด้วยบาปกรรมที่สั่งให้ทำลายศาสนวัตถุสำคัญของพุทธศาสนานั้น หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ลง นายทหารผู้นั้น จึงได้กลับไปพระมหาเจดีย์และรื้อกำแพงอิฐ ที่กั้นบังองค์พระพุทธเมตตาไว้ออก และได้พบว่าประทีปบูชาที่ได้จุดไว้นั้นยังส่องสว่างไสวอยู่
ด้วยพลังแห่งเมตตาอันศักดิ์สิทธิจากพระพุทธคุณ GemsArt จึงได้สร้างสรรค์ รูปพระพุทธเมตตา (Mercy Buddha) ที่ทรงคุณค่าขึ้น จากพลอยแท้ธรรมชาติ เพื่อเสริมสร้างพลังบวกแก่ผู้ที่สวมใส่ ให้ได้พบเจอแต่สิ่งดีงาม มีความสุข ตั้งใจทำสิ่งใดก็ให้ชนะอุปสรรคทั้งปวง ด้วยพลังใจจากความเคารพนับถือบูชาใน พระพุทธเมตตา ผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตาคุณอันศักดิ์สิทธิยิ่ง และด้วยพลังบวกจากพลอยแท้ธรรมชาติ ที่เรารังสรรค์ขึ้น เป็นงานแฮนด์เมด จากช่างฝีมือชั้นสูง มีความประณีตงดงาม
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : https://bit.ly/2KQVaq2 ที่ทำให้เราทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการอ้างอิงเรื่องราวของพระพุทธเมตตาในครั้งนี้
Dead written content , appreciate it for entropy. Chloette Niels Fredela