อัญมณีสีน้ำเงินสด หรือสีน้ำเงินแกมม่วงเล็กน้อย ที่สวยสง่างามสะกดสายตา มีเสน่ห์ล้ำลึก ทั้งยังมีความคงทน แข็งแรงต่อการถูกขูดขีด รองจากเพชร (ความแข็งตามมาตรฐาน Mohs Scale ~9) จึงทำให้ Blue Sapphire เป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอัญมณีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาดอัญมณีทั่วโลก และเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาประกอบเป็นเครื่องประดับสุดล้ำค่า
ในข้อเท็จจริง ‘Sapphire’ ตามธรรมชาตินั้น มีหลากหลายสี เช่น Yellow Sapphire (บุษราคัม), Green Sapphire (เขียวส่อง), Pink Sapphire (พลอยชมพู) แต่หากพูดถึง Sapphire คำเดียว เป็นที่รับทราบกันทั่วไปว่ามักจะหมายถึง Blue Sapphire ที่เกิดจากธาตุเหล็กและไทเทเนียม คำว่า ‘Sapphire’ มาจากภาษาสันกฤต ‘Sanipriya’ ซึ่งหมายถึง อัญมณีมีค่าสีเข้ม, ภาษาฮีบรูว์ ‘Sappir’ หมายถึง สมบูรณ์ และภาษากรีก ‘Sappeiros ’ หมายถึงสีน้ำเงิน ส่วนคำว่า ‘ไพลิน’ มาจากชื่อเมืองที่เป็นแหล่งหลักที่พบ Sapphire ในประเทศกัมพูชานั่นเอง
ในยุคเปอร์เซียโบราณเชื่อกันว่า Sapphire เป็นหินที่มาจากฟ้า เชื่อว่าโลกของเรานั้นตั้งอยู่บน Sapphire ขนาดมหึมา เมื่อยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังพื้นโลก จึงทำให้มีแสงสะท้อนสีน้ำเงินกลับไปยังท้องฟ้า และอีกตำนานกล่าวว่า Sapphire นั้น เป็นเครื่องประดับของกษัตริย์ที่ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันภัยอันตราย จึงทำให้เชื่อกันว่าผู้ที่สวมใส่ Sapphire จะมีชีวิตที่สดใส มีพลังในการดำรงชีวิต และสามารถป้องกันอันตรายหรือสิ่งไม่ดีออกจากตัวผู้สวมใส่ได้นอกจากนี้ ยังถือเอา Sapphire เป็นสัญลักษณ์ของความจริงใจ และมั่นคงอีกด้วย
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : หนังสือ GEMSTONE Buying Guide คู่มือเลือกซื้อพลอยสี BY GIT ที่ทำให้เราทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการอ้างอิงเรื่องราวของอัญมณีในครั้งนี้