แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับผู้คนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน ซึ่งในไทยเองก็มีบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นต้นมา นั่นแสดงว่าพวกเรานั้นเป็น ‘ทาสแมว’ มานานมาก ๆ และทาสแมวหลายท่านอาจสงสัยว่า เอ๊ะ! ต้นกำเนิดของทาสแมวเรานั้นมาจากไหน ? ทำไมเราถึงโดนตก !! วันนี้เราจะมาย้อนประวัติศาสตร์การเป็นทาสแมวในยุคสมัยอาณาจักรอียิปต์โบราณกันค่ะ
ในยุคสมัยอาณาจักรอียิปต์โบราณ ต้องบอกเลยว่าสัตว์แทบทุกชนิดล้วนมีอิทธิพล ความเชื่อและความเกี่ยวพันกับเทพเจ้าหรือเทพี ในฐานะที่เป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า มีการใช้สัตว์เป็นการบวงสรวงเพื่อให้เทพเจ้าคุ้มครองมนุษย์จากสิ่งชั่วร้ายหรือสิ่งไม่ดีต่าง ๆ สัตว์บางชนิดได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังทางธรรมชาติ ในขณะที่สัตว์บางชนิดได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของปีศาจที่ชั่วร้าย
และถ้าหากพูดถึงเทพีของอียิปต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับแมวโดยตรง นั่นคือ เทพีบาสเซ็ท (BASTET) เทพประจำนครบูบาสติส เมืองเก่าแก่ตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณ เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง ความปิติยินดี นอกจากนี้ยังเป็นเทพผู้พิทักษ์ของสตรี มารดา รวมถึงแมวอีกด้วย
ลักษณะของเทพีองค์นี้มีส่วนหัวเป็นแมว ลำตัวเป็นคน หรือมักปรากฏบนภาพเขียนฝาผนังเป็นรูปสตรีที่มีศีรษะเป็นหัวแมวมือข้างหนึ่งถือซีสทรัม เครื่องดนตรีโบราณชนิดหนึ่งของอียิปต์ที่ใช้ในการประกอบพิธี หรืออาจปรากฏในรูปแมวเต็มตัวก็ได้
และจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เมื่อราว 945 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อ ‘นครบูบาสติส’ ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอียิปต์ ทำให้เทพีบาสเซ็ทซึ่งเป็นเทพประจำนคร มีสถานะกลายเป็นเทพสูงสุดของทั้งอาณาจักรไปด้วย จึงทำให้การบูชา การศรัทธาแมว ขยายเป็นวงกว้างไปทั่วอียิปต์ จึงไม่แปลกใจเลยที่ชาวอียิปต์จะยกย่องบูชาแมวเป็นสัญลักษณ์แห่งเทพเจ้า รวมถึงแมวยังปรากฏในอักษรเฮียโรกลิฟฟิคของชาวอียิปต์ ซึ่งอักษรเฮียโรกลิฟฟิคคืออักษรที่ชาวอียิปต์โบราณใช้ มีรูปเป็นภาพสลักลงบนหินด้วยเหล็กแหลมนั่นเอง ซึ่งเป็นงานศิลปะอันล้ำค่าในปัจจุบัน