‘โรสควอตซ์’ (Rose Quartz) เป็นอัญมณีที่อยู่ในตระกูลควอตซ์ มีสีชมพูพาสเทลน่ารักไปจนถึงสีชมพูเข้มคล้ายดอกกุหลาบ เมื่อยามได้มองจะรู้สึกถึงความอ่อนโยน อ่อนหวาน สบายตา และดูสง่างามชนิดที่แบบไม่อยากจะวางตาจากอัญมณีชนิดนี้เลย จึงไม่แปลกใจเลยที่ โรสควอตซ์ จะได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
นอกจากความสง่างามที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนโยนจนทำให้หลายคนหลงใหลแล้วนั้น โรสควอตซ์ ยังมีตำนานที่กล่าวถึงเกี่ยวกับการถือกำเนิดของอัญมณีชนิดนี้อีกว่า มีชายหนุ่มรูปงามนามว่าอโดนิส (Adonis) ผู้เป็นคนรักของเทพีอโฟรไดท์ (Aphrodite) ได้ถูกเทพอาเรส (Ares) เทพแห่งการสงคราม ลอบสังหารด้วยเหตุจากความหึงหวงและอิจฉาที่อโดนิสได้ครองหัวใจของเทพีอโฟรไดท์
จนทำให้เลือดของอโดนิสไหลอาบและย้อมให้ก้อนหินบริเวณข้างร่างกายนั้นเปลี่ยนเป็นสีชมพูที่ไม่มีวันชำระล้างออกได้(Rose Quartz) ซึ่งเชื่อกันว่านี่คือสิ่งสุดท้ายที่อโดนิสต้องการบอกกับเทพีอโฟรไดท์ว่าความรักของเขาที่มีต่อเธอจะคงเป็น ‘ความรักที่นิรันดร์’ ไม่เสื่อมคลาย จึงเกิดเป็นความเชื่อที่ว่า อัญมณีชนิดนี้จะช่วยก่อให้เกิดความรักที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ อันนำมาซึ่งความรักอันแสนหวาน ราบรื่นและมั่นคง
ด้วยเหตุนี้ ‘โรสควอตซ์’ (Rose Quartz) จึงเป็นอัญมณีที่โดดเด่น และมีชื่อเสียงในเรื่องของ ‘ความรักนิรันดร์’ นั้นเอง
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : GIT หรือ https://infocenter.git.or.th/article/article-1852 ที่ทำให้เราทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการอ้างอิงเรื่องราวของอัญมณีในครั้งนี้